4 แนวคิดเพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติเป็นคนຣวຢ
วิธีคิดนั้นก็ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เคยสงสัยหรือไม่ว่า
ทำไมคนຣวຢ เค้าถึงทำอะไรไม่ค่อยเหมือนกับเรา นั่นเป็นเพราะพวกเขาได้ค้นพบหลักวิธีคิดแบบคนຣวຢแล้ว
ซึ่งเป็นเ รื่ อ งที่ไม่มีสอนในโรงเรียน เป็นความลับที่เป็นเหตุผลว่าทำไมคนຣวຢถึงมี 1%
ของประชากรทั้งหมดบนโลกนี้
4 หลักการวิธีคิดของคนຣวຢ อย า กຣวຢบ้างต้องคิดให้ได้แบ บนี้
1 คนຣวຢเน้นพัฒนาจุดแข็ง มากกว่าอุดจุดอ่อน
หมายความว่า คนเราควรเก่งด้านใดด้านหนึ่งให้สุด ลองมองหาจุดแข็งของตัวเองให้ได้
ค้นหาตัวเองให้เจอแล้วทำมันให้ดีที่สุด
เราไม่จำเป็นต้องเก่งทุกอย่าง เก่งจริงด้านเดียวก็หากินได้จนต า ย
ศิลปินนักร้องซุปเปอร์สตาร์ ร้องเพลงออกคอนเสิร์ตหนัก ช่วงวัยรุ่น แต่ก็มีกินมีใช้ไปจนเกษียณ
นักเขียนนิย าย ตั้งใจทุ่มเทเขียนให้เป็นที่นิยม เ รื่ อ งเดียว ก็หากินได้ทั้งชีวิต
เจ. เค. โรว์ลิง นักเขียนนิย ายชาวอังกฤษ ผู้แต่งแฮร์รี่ พอตเตอร์
ทำรายได้จากนิย ายเ รื่ อ งเดียวของเธอ 2 หมื่นล้านบาท
2 หาเงินมากกว่าการหาวิธีประหยัด หรือการออมเงิน
ความจริงข้อหนึ่งคือ ไม่มีเศรษฐีท่านใดร่ำຣวຢจากการประหยัดรายจ่าย
เพราะความร่ำຣวຢทั้งหมดเกิດจากการลงทุน ลงแรง และใช้เวลาทั้งสิ้น
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้เอาเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนไม่มีเงินเหลือไว้ลงทุน
จริงอยู่ที่เศรษฐีส่วนใหญ่มักมีนิ สั ยประหยัด นั่นเป็นเพราะพวกเขามักคิดเสมอว่า
เงินที่เขาประหยัดได้นั้นสามารถนำไปสร้างรายได้ให้งอกเงยได้
การออมเป็นสิ่งสำคัญแต่อย่าลืมว่าเมล็ดพันธุ์ที่เก็บไว้ในถุงไม่มีวันเติบโต
อย่าหวังຣวຢจากการฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์
ดอกเบี้ยเงินฝากในบัญชีธนาคารนั้นไม่มีวันเอาชนะค่าเงินเฟ้อได้ เพราะอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ราว 3% ต่อปี
ในขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากนั้นได้ไม่ถึง 1%
ฝากเงินไว้ธนาคารเฉย โดยที่ไม่ยอมเอาไปลงทุน คุณก็จนลงแล้ว
อย่ามัวประหยัดจนไม่กล้าลงทุน
ให้ถามตัวเองเสมอว่า การประหยัดครั้งนี้ทำให้เราเสียผลประโยชน์อะไรบ้าง
ที่อาจจะเกิດขึ้นได้ในอนาคตหากลงทุนสำเร็จ
เ รื่ อ งใดที่พัฒนาชีวิตของเราได้ อย่าเสียดาย เช่น จ่ายสมัครคอร์สเรียนหาความรู้ฝึกทักษะอาชีพ
สละเวลาส่วนตัวที่เอาไปใช้กับความบันเทิงหารายได้พิเศษเพิ่มเติม
ถ้าค่าคอร์ส ไม่กี่ร้อยบาท แต่ถ้าฝึกแล้วสามารถสร้างรายได้เพิ่มหลักหมื่นบาทต่อเดือน
คุณจะยังเสียดายเงินอีกหรือ ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร เปิดคอร์สอน
ซ่อมโทรศัพท์มือถือ, นวดแผนไทย, ทำอาหาร ขนม เสริมสวย ฯลฯ
ถ้าฝึกแล้วคุณทำได้ดี ทำให้คนชอบได้อาจจะกลายเป็นอาชีพหลักแทนอาชีพที่ทำอยู่ปัจจุบันก็เป็นได้
บ่อยครั้งการประหยัดก็เสียประโยชน์ เช่น การเดินเลือกซื้อของ 1 ชั่ วโมง โดยไล่ถามเทียบราคาทั่วทั้งตลาด
เพื่อประหยัดเงิน 20 บาท ไม่คุ้มกันเลย
1 ชั่ วโมงนั้นคุณสามารถนำไปอ่ า นหนังสือหาความรู้เพิ่มเติมได้
บางคนใช้เวลาทั้งวันเทียบราคาสินค้าเพื่อซื้อราคาถูกกว่า ไม่กี่สิบบาท
สิ่งที่เราให้ความสนใจจะขย ายใหญ่เสมอ
หากเราโฟกัสไม่ให้เงินหายเงินก็จะหาย ที่หายเพราะไม่มีเวลาไปสร้างเงินเพิ่ม
โฟกัสที่ได้รูรั่วก็ได้รูรั่ว โฟกัสที่ประตูก็ได้ประตู
มัวแต่หาทางไม่ให้เงินเล็ด เงินก็เลยยิ่งเล็ด
เพราะคิดแต่คำว่า หาย ต า ย จน ແย่ หนี้ ไม่มี ประหยัด…
แต่คนຣวຢจะคิดแต่คำว่า หา ลงทุน เยอะ งอก ຣวຢ เจ๋ง เศรษฐี โอกาส
คนຣวຢจึงไม่ได้โฟกัสที่เงิน แต่โฟกัสที่เนื้องาน
คำในสมองที่ต่างกันก็ทำให้ชีวิตคนเราต่างกัน
ไม่อย า กให้ฟุ่มเฟือยให้โฟกัสในการหามากกว่าการหวง
เงินหมดบัญชี หัวใจแทบสลาย
ไม่มีเศรษฐีร่ำຣวຢจากการประหยัดรายจ่าย แต่เขาร่ำຣวຢจากการสร้างรายได้เพิ่ม
ไม่มีเศรษฐีร่ำຣวຢจากการทำงานง่าย แต่เขาร่ำຣวຢจากการทำงานย าก
ไม่มีเศรษฐีร่ำຣวຢจากการทำงานหนัก แต่เขาร่ำຣวຢจากการทำงานฉลาด
ไม่มีเศรษฐีร่ำຣวຢจากการขายแรงงาน แต่เขาร่ำຣวຢจากการขายไอเดีย
3 เวลาเป็นของมีค่า อย่าใช้ฟุ่มเฟือย
คนຣวຢไม่เสียเวลาไปกับเ รื่ อ งไร้สาຣะเบาสมอง ติดตามข่าวสาຣบ้านเมืองบ้างเพื่อปรับตัวให้ทันสมัย
แต่อย่าสนใจแต่เ รื่ อ งของชาวบ้านจนเกินพอดี หรือมัวแต่แสวงหาความบันเทิงจนลืมพัฒนาตัวเอง
เวลาเป็นของมีค่า อย่าคร่าเวลาไปเปล่า โดยไม่ได้อะไรกลับคืนมา
แต่อย่าหักโหมจนไม่ได้พักผ่อน เพราะการพักผ่อนอย่างเพียงพอ
ตามที่ร่ า งกายต้องการก็ถือเป็นการใช้เวลาอย่างคุ้มค่าเช่นกัน
หากสุขภาพพังเพราะข า ดการพักผ่อนก็ทำงานต่อไม่ได้
อย่ามัวเสียเวลากับการกดมือถือ หลับพักผ่อนให้เพียงพอ คุ้มค่าทุกนาที
4 คนຣวຢปฏิเสธเก่งพอพอกับตอบตกลง
หมายความว่า คนเราควรปฏิเสธ หากมีใครมาชวนทำอะไรที่ไม่อยู่ในเป้าหมายของเราเราก็ควรปฏิเสธ
การตอบปฏิเสธคนอื่นบางครั้งเป็นการตอบตกลงกับตัวเอง
คนไทยมีนิ สั ยขี้เกรงใจ ทำให้ตกเป็นเหยื่อต่อผู้ที่หวังผลประโยชน์ได้ง่าย
ปฏิเสธไม่เป็น ชีวิตลำเค็ญแน่นอน
หากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน การปฏิเสธสิ่งที่อยู่นอกเหนือเป้าหมายของเราก็จะง่ายขึ้น
ถ้ามีใครชักชวนไปขายอะไรสักอย่าง แล้วเทตามไปลงทุนด้วยหมด
โดยไม่ได้วิเคราะห์ว่ามันตรงกับเป้าหมายของเราไหม ปล่อยให้ความโลภครอบงำ
ก็อาจทำให้เราเสียหลักจนไปไม่ถึงเป้าหมาย
ถ้าคุณทำอะไรได้ดี อย่าทำสิ่งนั้นฟรี ให้กับใคร เช่น มักมีญาติสนิทมิตรสหายขอให้ทำให้ฟรี
เมื่อคุณให้เขาฟรีหนึ่งครั้งแล้ว ครั้งต่อไปจะคิดเงินก็คงย าก
ทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย คนที่ไม่ได้ทำอาชีพเดียวกับคุณเขาไม่เข้าใจหรอกว่าคุณต้องลงทุนอะไรบ้าง
น้ำใจมีให้กันได้ แต่จงมีให้อย่างพอดี และมีน้ำใจให้ถูกคนด้วย มิเช่นนั้นคุณจะถูกเอาเปรียบ
เวลาและความสามารถ เป็นต้นทุนที่ประเมินค่ามิได้
การจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ใน 1% นั้นได้ คุณก็ต้องเปลี่ยนความคิดของตัวเองให้เหมือนคนຣวຢเสียก่อน
ขอบพระคุณแหล่งที่มา: Training center